วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

ความชอบส่วนตัว


การิน ปริศนาคดีอาถรรพ์


 การ์ตูนและนิยายเรื่องยาวสัญชาติไทย แนวสืบสวนสยองขวัญ แต่งเนื้อเรื่องโดย อัยย์ โดยมีทีม Black Tohfu Studio วาดภาพประกอบในฉบับนิยาย และวาดภาพเนื้อเรื่องทั้งหมดในฉบับการ์ตูน จัดพิมพ์โดย พูนิก้า สำนักพิมพ์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 - ปัจจุบัน เป็นการ์ตูนไทยที่สร้างปรากฏการณ์ขายหมดภายในเดือนเดียวที่วางแผง และถูกตีพิมพ์ในฉบับภาษามาเลเซียอีกด้วยในชื่อว่า "FaIL aNEH GaRIN"
การิน ปริศนาคดีอาถรรพ์ เปิดตัวในรูปแบบของภาพยนตร์คนแสดงเป็นครั้งแรก (Garin Movie Project) ในชื่อ การิน ปฐมนิเทศแห่งความตาย โดยที่ตัวละครหลักคือ
     ' การิน จินตเมธร ' 
ลูกชายผู้อำนวยการโรงเรียนนิศาพาณิชย์ เป็นเด็กหนุ่มอัจฉริยะ ผู้มีนิสัยร้ายกาจ เย็นชา มีโลกส่วนตัวสูง และมีปัญหาด้านมนุษยสัมพันธ์ มักจะแสดงความก้าวร้าว ปากร้าย จนไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ การินหลงใหลในไสยศาสตร์ อาถรรพ์ และเรื่องลึกลับอย่างมาก จนปรารถนาที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ธรรมดา แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้ การินจึงอิจฉาและคอยระรานลัลทริมาผู้มีพลังแบบที่ตนต้องการ  รับบทโดย วิศรุตต์ ปองธนพิสิฐ

     ' ลัลทริมา วิกรานต์วรสริต ' 
เด็กสาวผู้มีชีวิตราวกับต้องคำสาป เธอสูญเสียครอบครัวไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าเศร้า ซึ่งได้มอบ ‘ญาณอาถรรพ์’ พลังดึงดูดความเลวร้ายแก่เธอมา ลัลทริมามีจิตใจดี มั่นคง รักพวกพ้อง มองโลกในแง่ดี และเสียสละ แต่เป็นคนไม่ค่อยร่าเริงนักเพราะในใจมีเรื่องมากมายที่ไม่สามารถเล่าให้ใครฟังได้ เธอกำลังเรียนอาชีวศึกษาชั้นเรียนเดียวกันกับการิน  รับบทโดย ธนพร ปุกกูล



    ' วิทูร '
  
 ชายลึกลับ ผู้คอยตามลัลทริมา ถ้าไปสถานที่ใด ๆ มักจะพบกับความตาย วิทูรต้องการจะเป็นอมตะอัตตานิรันดร์ แต่ถูกการินขัดขวางจนวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในนาฬิการุมทำร้ายจนสลายไป เมื่อก่อนวิทูรเป็นคนความจำเสื่อมจำเรื่องราวตั้งแต่ 10 ขวบ ขึ้นไปไม่ได้ถูกซ้อมถูกรังแก จนชายหนุ่มลึกลับได้มอบนาฬิกาพกมาให้จนตัวตนของวิทูรตื่นขึ้นมาและฆ่านักเรียนพวกนั้นทิ้ง มีความสนใจในคนที่มีความสามารถอย่างการิน (ปรากฏตัวในฉบับภาพยนตร์เท่านั้น)  รับบทโดย สรณ ขุนพลพิทักษ์



    ' เอมิกา วิทยาณุสรณ์ศิลป์ '

  เพื่อนสนิทของลัลทริมา บุคลิกห้าวหาญ ใจนักเลง ตรงไปตรงมา รักและจริงใจต่อเพื่อน คอยปกป้องลัลทริมาจากการถูกผู้คนเหยียดหยามรังแก ชื่นชอบช็อคโกแลตมาก มีความรู้ด้านประวัติศาสตร์และภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี  รับบทโดย อรรัมภา จริงรักวงษ์


    ' มัณฑินี วศิษฐ์นิติกรณ์ '
  
  เพื่อนสนิทอีกคนของลัลทริมา เป็นเด็กเรียนเก่ง เรียบร้อย สดใสร่าเริง และระแวงเกินจริง มัณฑินีมักจะเป็นคนคอยประสานรอยร้าวระหว่างลัลทริมาและเอมิกาทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น เธอเคยร่วมชั้นเรียนกับการินมาในชั้น ม.ต้น ของโรงเรียนนิศาพาณิชย์ ทำให้รู้เรื่องในอดีตของการินอยู่บ้าง รับบทโดย วรรธนพร สงวนนภาพร


การิน ปริศนาคดีอาถรรพ์ กล่าวถึง การิน เด็กหนุ่มผู้คลั่งไคล้ในศาสตร์มืด และต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์ แต่ถึงแม้จะทุ่มเททุกวิถีทาง เขาก็ไม่อาจเข้าสู่โลกแห่งความมืดอย่างที่เขาต้องการได้ จนกระทั่งเขาได้พบกับ ลัลทริมา เด็กสาวผู้ต้องการเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่เธอกลับเป็นคนครอบครองพลังที่เรียกว่า ญาณอาถรรพ์  พลังต้องคำสาปที่สามารถดึงดูดอาถรรพ์และความเลวร้ายเข้าสู่ตัวผู้เป็นเจ้าของ รวมไปถึงสามารถอ่านใจคนอื่น และกระตุ้นด้านมืดของมนุษย์ ให้ลุกขึ้นเข่นฆ่ากันเองอย่างไร้ซึ่งมนุษยธรรม ทางเดินที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของทั้งสอง กลับถูกบิดเบนให้เข้าหากันด้วยความริษยาของการิน ผู้ต้องการญาณอาถรรพ์มาเป็นของตนเอง การินเข้ามารังควานชีวิตลัลทริมา เพื่อใช้เธอเป็นเครื่องมือดึงดูดโศกนาฏกรรม วิญญาณ และอาถรรพ์ ซึ่งเป็นทุกสิ่งที่เขาหลงใหลให้เข้ามา และบรรลุเป้าหมายของตนเอง

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

ประวัติผู้จัดทำ

                                  

ชื่อ - สกุล   : เด็กหญิงณัฐชยา มาลารัตน์
ชื่อเล่น   : อันอัน
วัน/เดือน/ปี เกิด   : 15 มิถุนายน 2542
อายุ   : 14
กรุ๊ปเลือด   : B
การศึกษา   : ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 เลขที่ 17 โรงเรียนมอ.วิทยานุสรณ์
ศาสนา   : พุทธ
สีที่ชอบ   : สีม่วง
งานอดิเรก   : อ่านนิยาย ฟังเพลง เล่นเกมส์ ดูหนัง
ดาราที่ชอบ   : หมาก-ปริญ , เจมส์ มาร์ , มินต์-ชาลิดา
e-mail   : unun2542natchaya@gmail.com / unun_temmy@hotmail.com
Facebook   : Unun Natchaya  (https://www.facebook.com/#!/unun.natchaya.3 )
Instargram   : unun_natchaya
โทรศัพท์   : 090929123

มารยาท ระเบียบ และข้อบังคับ ในการใช้อินเทอร์เน็ต


       จากปัญหาการล่อลวงอินเกิดจากการเล่นอินเทอร์เน็ตที่นับวันจะยิ่งมีมากขึ้น ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้พยายามหามาตรการป้องกันปัญหาและภัยจากการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งเกิดจากคนที่ขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะสร้างจิตสำนึกที่ดีต่อทั้งตนเอง และสังคม เพื่อหลีกเลี่ยงและรับมือกับความเสี่ยงจากภัยออนไลน์ ทั้งนี้รองศาสตราจารย์ยืน ภู่วรวรรณ ได้กล่าวถึง บัญญัติ 10 ประการ ซึ่งเป็นจรรยาบรรณที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรยึดถือไว้เสมือนเป็นแม่บทของการปฏิบัติ ซึ่งผู้ใช้พึงระลึกและเตือนความจำเสมอ ดังนี้

       1) ต้องไม่ให้คอมพิวเตอร์ทำราย หรือละเมิดผู้อื่น เช่น ไม่เผยแพร่ข้อความกล่าวหาบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ไม่เผยแพร่รูปภาพลามกอนาจาร เป็นต้น
      
2) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์รบกวนการทำงานของผู้อื่น เช่น การเล่นเกมหรือเปิดเพลงด้วยคอมพิวเตอร์รบกวนผู้อื่นที่อยู่ใกล้เคียง
       3) ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต
       4) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
       5) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
       6) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์คัดลอกหรือใช้โปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
       7) ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
       8) ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตนเอง
       9) ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตน
      10) ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎ ระเบียบ กติกา และมีมารยาทของหน่วยงาน สถาบันหรือ

สังคมนั้นๆ
                
         บริการบนอินเทอร์เน็ตมีการพัฒนาให้มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย  ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว  สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ทั้งเพื่อการศึกษาการทำงาน  ความบันเทิง  หรือเพื่อตอบสนองความต้องการด้านอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ดีอินเทอร์เน็ตยังมีผลกระทบทางด้านลบต่อสังคม  เช่น  ก่อให้เกิดความเครียดของคนในสังคม   เกิดปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์    เป็นต้น  ดังนั้น  ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตควรมีวิจารณญาณ  รู้จักแยกแยะสิ่งถูกผิด  และจรรยาบรรณในการใช้อินเทอร์เน็ต  เพื่อให้การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างสร้างสรรค์  และสร้างประโยชน์ให้กับสังคม


คุณธรรมและจริยธรรมในการใช้อินเทอร์เน็ต

            
       ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตทำให้การติดต่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่ออินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสำคัญมากขึ้นเท่าใด อินเทอร์เน็ตย่อมส่งผลกระทบทั้งทางบวกและทางลบต่อสังคม ดังนี้

5.1  ผลกระทบทางบวก

       อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางบวกต่อสังคม ดังนี้

         1) ทำให้มีความสะดวดในการติดต่อสื่อสารในเครือข่ายขนาดใหญ่ กล่าวคือ ทำให้คนในสังคมติดต่อสื่อสารได้ทุกสถานที่ ทุกเวลา
         2) ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านอีเมล การประชุมทางไกลผ่านเครือข่าย
         3) ช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษา ทำให้เกิดการศึกษารูปแบบใหม่ที่กระตุ้นความสนใจของผู้เรียนให้เกิดความสนุกในการเรียนรู้ อีกทั้งทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดเวลา ได้แก่ ระบบการเรียนทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (E-learning)



เว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ

5.2  ผลกระทบทางลบ

       อินเทอร์เน็ตมีผลกระทบทางลบต่อสังคม ดังนี้
        
         1) ก่อให้เกิดความเครียดของคนในสังคม กล่าวคือ อินเทอร์เน็ตทำให้คนในสังคมเข้าถึงข้อมูลมากมายมหาศาล สภาพสังคมจังเปลี่ยนเป็นสังคมฐานความรู้ หรือสังคมที่ใช้ความรู้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น จึงเกิดการแข่งขันด้านเศรษฐกิจกันอย่างรุนแรง ซึ่งการตัดสินใจในการทำงานต้องใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพ เพื่อให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง    ทำให้คนในสังคมเกิดความกดดันและเกิดความเครียดสูงขึ้น             
         2) เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดค่านิยมที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นในสังคม เช่น การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมของเยาวชน การติดเกมประเภทความรุนแรง เป็นต้น
         3) เกิดช่องว่างระหว่างคนในสังคม เนื่องจากคนในสังคมใช้เวลาในการเล่นอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ทำให้การเข้าร่วมกิจกรรมทางสงคมลดลง จนเกิดคำพูดที่ว่า “เทคโนโลยีทำให้คนไกลใกล้กันมากขึ้น แต่เทคโนโลยีก็ทำให้คนใกล้ไกลมากขึ้น” กล่าวคือ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตทำให้คนที่อยู่ไกลกันสามารถสื่อสารได้เหมือนอยู่ใกล้กัน ในขณะที่ทำให้คนที่อยู่ใกล้กันเกิดความห่างไกลกันมากขึ้น เช่น คนในครอบครัวที่ต่างคนต่างคุยกับเพื่อนในอินเทอร์เน็ต จึงมีเวลาพูดคุยกับคนในครอบครัวน้อยลง
         4) เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เนื่องจากอินเทอร์เน็ตเป็นโลกเสรีที่ให้ผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นร่วมกันได้ แต่การแสดงความคิดเห็นที่ไร้ขอบเขต ย่อมส่งผลต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่น การนำข้อมูลส่วนบุคคลออกเผยแพร่ต่อสารณชน ซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจไม่เป็นจริงหรือไม่ได้พิสูจน์ความถูกต้อง การแสดงความคิดเห็นด้วยถ้วยคำที่รุนแรงต่อบุคคลผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
         5) อาจก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ผู้ไม่หวังดีอาจใช้อินเทอร์เน็ตในทางที่ผิด เช่น การล่อลวงผู้ที่เล่นอินเทอร์เน็ตและก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศ การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในแง่มุมต่างๆ ทั้งภาพลามกอนาจาร การพนันออนไลน์  การจำหน่ายของผิดกฎหมาย การส่งไวรัสไปทำลายข้อมูลของผู้อื่น เป็นต้น



เด็กติดเกมมักใช้เวลาว่างเล่นเกม

การใช้บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต

     อินเทอร์เน็ตเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้เกิดการสื่อสารไร้พรมแดน ซึ่งก็คือ ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก สามารถเข้าถึงข้อมูลได้โดยไม่จำกัดสถานที่และเวลา
ดังนั้น จึงมีการนำอินเทอร์เน็ตไปประยุกต์ใช้งานหลากหลายประเภท

4.1 ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (electronic mail หรือ e-mail)
    เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถรับส่งข้อความเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันกับบุคคลอื่นๆได้อย่างรวดเร็วกว่าการใช้บริการระบบไปรษณีย์แบบดั้งเดิม
    นอกจากนี้ยังสามารถส่งข้อมูลในรูปแบบอื่นๆนอกจากตัวอักษรโดยแนบเอกสารไปได้อีกด้วย เช่น ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง เป็นต้น


    เมื่อผู้ใช้ส่งไปรษณีอิเล็กทรอนิกส์ไปแล้ว ไปรษณีย์จะถูกเก็บไว้ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์จนกระทั่งผู้รับมาเปิดอ่าน
รูปแบบการช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน มีดังนี้

    1) เว็บเมล (Web Mail) เป็นบริการรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ โดยผู้ใช้สามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการได้ จากนั้นผู้ใช้จะได้รับไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์แอดเดรสและรหัสผ่าน เพื่อขอเข้าใช้บริการในเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งเว็บเมลส่วนใหญ่จะให้โดยบริการที่ผู้ใช้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

ตัวอย่างเว็บเมล์ของประเทศไทยที่ได้รับความนิยม

ตัวอย่างเว็บเมลของต่างประเทศที่ได้รับความนิยม


    2) พ๊อปเมล (POP Mail) เป็นบริการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์โดยใช้โปรแกรมจัดการ
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโปรแกรมจัดการไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จะติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่รับ-ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมพ๊อปเมลที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Outlook. Windows Mail, Netscape Mail เป็นต้น

โปรแกรมพ๊อปเมล
    3) ขั้นตอนการสมัครส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์ฟรี)
         Gmail  เป็นไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ของ Google  สร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่าไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ควรงานงาน  มีประสิทธิภาพ  เป็นประโยชน์  และให้ความสนุกสนานด้วย  ซึ่งการสมัครใช้ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ทาง Gmail  นั้น  ผู้ใช้จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
 4.2  การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล
         การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล (File Transfer Protocol: FTP) เป็นการโอนแฟ้มข้อมูลจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งอาจอยู่ใกล้หรือไกลกัน ในการโอนย้ายข้อมูล เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่และมีการเรียกใช้โปรแกรมสำหรับการโอนย้ายแฟ้มข้อมูล เรียกว่า เครื่องต้นทาง (Local host)

หลักการทำงานของการโอนย้ายแฟ้มข้อมูล

      ทำหน้าที่เป็นเครื่องลูกข่าย ส่วนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำการติดต่อไปเพื่อโอนย้ายแฟ้มข้อมูลนั้นเรียกว่าเครื่องปลายทาง (remote host) โดยทำหน้าที่เป็นเครื่องแม่ข่าย ซึ่งผู้ใช้งานโปรแกรมที่เครื่องต้นทางจะต้องระบุชื่อเครื่องหรือหมายเลขไอพีของเครื่องปลายทางที่ต้องการใช้บริการ
         การโอนย้ายแฟ้มข้อมูล มีการทำ 2 ลักษณะ คือ
         1)  get เป็นการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากเครื่องปลายทางมายังเครื่องต้นทาง (download)
         2)  put เป็นการโอนย้ายแฟ้มข้อมูลจากเครื่องต้นทางไปยังเครื่องปลายทาง (upload)
การบริการโอนย้ายแฟ้มข้อมูล มี ๒ ลักษณะ ได้แก่
         1)  การโอนย้ายข้อมูลด้วยโปรแกรมโอนย้ายข้อมูล ทั้งที่เป็นแบบแจกฟรี (freeware) และแบบให้ทดลองใช้ก่อน (shareware) เช่น WS_FTP CuteFTP เป็นต้น
         2)  โอนย้ายแฟ้มข้อมูลผ่าน Web Browser

4.3  การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น
         การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น (Internet forum) เป็นบริการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร การอภิปรายและแสดงความคิดเห็นร่วมกันของผู้คนในสังคมผ่านอินเทอร์เน็ต ซึ่งแนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ต คือ ใช้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างเครือข่ายทางสังคม (social network) เทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนข่าวสารมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ยูสเน็ต (usenet)  บล็อก (blog) เป็นต้น
         1) ยูสเน็ต (usenet) เป็นบริการในลักษณะกลุ่มสนทนาที่แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้ต้องสมครเข้าเป็นสมาชิก (subscribe) กลุ่มหัวข้อใดที่
ตนเองสนใจ และเมื่อเป็นสมาชิกแล้วก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มหัวข้อนั้นได้และยังสามารถขอความคิดเห็น หรือร่วมแสดงความคิดเห็น สอบถามปัญหา หรือตอบปัญหาของผู้อื่นที่ถามมาในกลุ่มหัวข้อนั้น ๆ ได้ สำหรับยูสเน็ตในเว็บไซต์ต่างๆ ได้มีการจัดแบ่งเป็นกลุ่มหัวข้อต่างๆ  เช่น กลุ่มการเมือง กลุ่มเทคนิคด้านคอมพิวเตอร์ กลุ่มดนตรี กลุ่มศิลปะ กลุ่มกีฬา เป็นต้น ซึ่งหากผู้ใช้ไม่ต้องการอ่านข่าวสารในกลุ่มหัวข้อนั้นอีก ก็สามารถยกเลิกการเป็นสมาชิก (unsubscribe) ของกลุ่มหัวข้อนั้นได้

เว็บไซต์เกี่ยวกับUSNET

         2) บล็อก (blog) ย่อมาจากคำว่า เว็บบล็อก (webblog)  เป็นเว็บไซต์ที่ใช้เขียนบนทึกเรื่องราว โดยเรียงลำดับตามเวลา เพื่อสื่อสารความรู้สึก มุมมอง ประสบการณ์ ความรู้ และข่าวสาร โดยจะแสดงข้อมูลที่เขียนล่าสุดไว้ส่วนบนสุดของเว็บไซต์หรือบางครั้งอาจเรียกว่า ไดอารีออนไลน์ (diary online) ข้อมูลหรือความเห็นที่ถูกนำเสนอในบล็อก อาจจัดทำโดยบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่เป็นเจ้าของบล็อก หรือบุคคลที่มีความสนใจร่วมกัน หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะเหมือนกัน จนเกิดชุมชนในบล็อกขึ้น ซึ่งผู้ใช้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามาแสดงความคิดเห็นร่วมกันได้ และสามารถอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามลำดับเวลาได้ โดยข้อมูลหรือความเห็นสามารถนำเสนอในรูปของข้อความ ภาพ หรือมัลติมีเดีย ทั้งนี้ผู้เขียน (blogger) ต้องพึงระวังการเขียนข้อความในลักษณะหมิ่นประมาท ยั่วยุให้ผู้อื่นกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ. ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้ ปัจจุบันบล็อกที่นิยมใช้ในประเทศไทยมีหลายเว็บไซต์ เช่น Hi5, Face book, Wikipedia, YouTube เป็นต้น

4.4    การสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต
         การสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต มี 2 รูปแบบ ดังนี้
         1) การสนทนาเป็นกลุ่ม  เป็นการสนทนาโดยคู่สนทนาจะพิมพ์ข้อความไปยังเครื่องเซิร์ฟเวอร์ จากนั้นเครื่องเซิร์ฟเวอร์จะส่งข้อความแสดงบนหน้าจอของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ร่วมสนทนา ซึ่งผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกเพื่อรับชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ โดยส่วนใหญ่เว็บไซต์จะแบ่งห้องสนทนา (chat room) เป็นกลุ่มหัวข้อต่างๆ  ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้บริการตามความสนใจ ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการนี้ เช่น www.sanook.com  www.pantip.com เป็นต้น


แสดงการสนทนาเป็นกลุ่มในห้องสนทนาของเว็บไซต์ต่างๆ

          2) การสนทนาระหว่างผู้ใช้โดยตรง  เป็นการสนทนาโดยมีเซิร์ฟเวอร์บอกตำแหน่งของโปรแกรมสนทนา (instant messaging)  ของคู่สนทนา ทำให้ผู้ใช้สามารถสนทนากับผู้ใช้อื่นๆ ได้โดยตรง การสนทนาไก้ทั้งการพิมพ์ข้อความ การส่งภาพกราฟิก เสียง และภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้โปรแกรมยังมีฟังก์ชั่นและลูกเล่นต่างๆ ที่เป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้โปรแกรมสนทนาที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ MSN Messenger, AOL Instant Messenger, Yahoo Messenger, Google Talk,  NET Messenger Service,  Jabber, ICQ และ Skype


การสนทนาระหว่างผู้ใช้โดยตรง เมื่อผู้ใช้ที่ 1  และผู้ใช้ที่ 2 รู้จักตำแหน่งกันแล้วก็จะสามารถคุยกันได้โดยตรง


เทคนิคการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 
             เทคนิคการค้นหาข้อมูลจากเครื่องมือหรือโปรแกรมการค้นหา  จะช่วยให้นักเรียนประหยัดเวลาในการค้นหาและได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงสิ่งที่ต้องการมากที่สุด  โดยมีเทคนิคการค้นหาข้อมูล  ดังนี้
             1)  การเลือกคำสำคัญในการค้นหาข้อมูล  เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็ว  มีหลักการ ดังนี้
                 1.1  การกำหนดคำสำคัญ  ที่มีความหมายเหมือนกันไว้ล่วงหน้าหลาย ๆ คำ  ในกรณีที่ใช้คำหนึ่งค้นหาแล้วไม่พบ  ควรเปลี่ยนใช้คำอื่นที่มีความหมายเหมือนกันแทน  เช่น  หากต้องการหาข้อมูลพันธุ์ไม้ดอกในประเทศไทย  นักเรียนสามารถกำหนดคำสำคัญได้  เช่น  พันธุ์ไม้  ต้นไม้  พรรณไม้  ไม้ดอกประดับ  เป็นต้น

4.5   บริการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
         การค้นหาข้อมูลในอดีตนักเรียนจะต้องเดินทางไปห้องสมุด เพื่อหาหนังสือที่เกี่ยวข้อง แต่ปัจจุบันมีอินเทอร์เน็ตซึ่งแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนข้องสมุดหลายแห่งทั่วโลกที่เชื่อมโยงกัน ดังนั้น การสืบค้นข้อมูลจึงทำได้สะดวกขึ้น แต่งสิ่งหนึ่งที่นักเรียนจะต้อคำนึงถึง คือ การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตนั้น อาจต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะพบเว็บเพจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ หรืออาจพบแต่เป็นเนื้อหาที่ไม่ถูกต้อง และบางครั้งอาจหาไม่พบเลย  โดยวิธีที่ดีที่สุด คือ การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล (search site) ซึ่งเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการทำงาน ดั้งนี้
         1) เว็บไซต์ที่มีเครื่องมือหรือโปรแกรมการค้นหา (search engine) เป็นเว็บไซต์ที่สามารถให้ผู้ใช้หาข้อมูลโดยการระบุคำสำคัญ เพื่อค้นหาข้อมูลด้วยโปรแกรมการค้นหา ซึ่งข้อมูลจะครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่นๆ โปรแกรมการค้นหาส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (keywords) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไปและจะแสดงรายการผลลัพธ์ที่ตรงหรือใกล้เคียงกับคำสำคัญที่สุด ตัวอย่าง เว็บไซต์ที่มีเครื่องมือ หรือโปรแกรมการค้นหาที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น www.google.comwww.bing.com,  www.search.com เป็นต้น

เว็บไซต์สำหรับโปรแกรมการค้นหา

         2) เว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่ (web directories)   เป็นเว็บไซต์ที่มีการรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ต่างๆ  ในอินเทอร์เน็ต โดยแต่ละเว็ปไซต์จะถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ที่เหมาะสม ตัวอย่างเว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่ เช่น www.sanook.comwww.yahoo.com เป็นต้น

ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลจาก www.sanook.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่

การค้นหาข้อมูลด้วยเว็บไซต์ที่มีการจัดข้อมูลตามหมวดหมู่ ทำให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกเพราะสามารถเลือกค้นข้อมูลจากหมวดหมู่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องการมากที่สุด แต่หากเว็บไซต์มีการจัดแบ่งหมวดหมู่โดยไม่มีมาตรฐาน อาจทำให้ผู้ใช้เกิด
ความสับสนได้ง่าย

4.6   การบริการสถานีวิทยุและโทรทัศน์บนเครือข่าย 
       เป็นการประยุกต์เพื่อให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ปัจจุบันมีผู้ตั้งสถานีวิทยุบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหลายร้อยสถานี ผู้ใช้สามารถเลือกสถานีที่ต้องการและได้ยินเสียงเหมือนการเปิดฟังวิทยุ ขณะเดียวกันก็มีการส่งกระจายภาพวีดิทัศน์บนเครือข่ายด้วย แต่ปัญหายังอยู่ที่ความเร็วของเครือข่ายที่ยังไม่สามารถรองรับการส่งข้อมูลจำนวนมาก ทำให้คุณภาพของภาพวีดิทัศน์ยังไม่ดีเท่าที่ควร

ที่มา :  http://www.youtube.com/


ว็บไซต์ที่ให้บริการสถานีวิทยุและโทรทัศน์บนเครือข่าย



การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต

         การเชื่อมเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตที่นิยมใช้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไปหรือหน่วยงานขนาดเล็ก จะใช้การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์ (Dial-Up Connection) ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบชั่วคราวหรือเฉพาะบางเวลา ตามที่ผู้ใช้งานต้องการผ่านสายโทรศัพท์ ซึ่งสิ่งที่จำเป็นในการเชื่อมต่อ มีดังนี้



  1. เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการส่งและรับข้อมูล
  2. เว็บบราวเซอร์ เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการดึงข้อมูลมาจากเว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจัดเก็บอยู่ในรูปแบบที่เรียกว่า HTML (HyperText Markup Language) และแปลความหมายของรูปแบบข้อมูลที่กำหนดเอาไว้เพื่อนำเสนอแก่ผู้ใช้งาน
  3. หมายเลขโทรศัพท์และสายโทรศัพท์ เป็นสื่อกลางในการส่งข้อมูลข่าวสาร โดยผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์เพียง 3 บาทต่อครั้งของการเชื่อมต่อ
  4. โมเด็ม เป็นอุปกรณ์สำหรับแปลงสัญญาณข้อมูลของคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ในรูปแบบดิจิทัล (digital) ให้เป็นสัญญาณข้อมูลในรูปแบบแอนะล็อก (analog) และเมื่อเป็นผู้ส่งจะแปลงสัญญาณข้อมูลรูปแบบแอนะล็อกให้เป็นดิจิทัล
  5. บริการชุดอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกขอเป็นสมาชิกแบบรายเดือน รายปี หรืออาจเป็นการซื้อชุดอินเทอร์เน็ตแบบสำเร็จรูปโดยคิดค่าใช้บริการเป็นหน่วยชั่วโมง บริษัทที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย เช่น ทีโอที กสท โทรคมนาคม เป็นต้น
         การเชื่อมต่อแบบหมุนโทรศัพท์มีข้อดีคือ สะดวกและมีค่าใช้จ่ายตํ่า แต่มีข้อจำกัดด้านความเร็ว และการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอาจหลุดได้หากมีสัญญาณรบกวนภายในสายโทรศัพท์

การทำงานของอินเทอร์เน็ต

           เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันหรือกฎและข้อตกลงเดียวกัน ซึ่งจะเรียกว่า โพรโทคอล (protocol) ในการควบคุมรูปแบบข้อมูลและการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ โพรโทคอลที่ใช้ในอินเทอร์เน็ตเรียกว่า ทรานมิสชันคอนโทรโพรโทคอล/อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (Transmission Control Protocal/Internet Protocal) หรือมีชื่อย่อว่า ทีซีพี/ไอพี (TCP/IP)




การติดต่อสื่อสารบนอินเทอร์เน็ตโดยใช้โพรโทคอลทีซีพี/ไอพี

          อินเทอร์เน็ตสามารถส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานปลายทางได้มากกว่าหนึ่งเส้นทาง ซึ่งหากเส้นทางบางเส้นได้รับความเสียหาย ระบบเครือข่ายก็ยังคงสื่อสารกันได้ โดยเส้นทางที่เหลือเส้นทางอื่น ซึ่งการส่งข้อมูลดังกล่าวจะใช้หลักการของ เครือข่ายแบบแพ็กเก็ตสวิตชิง (Packet-Switching Network) คือข้อมูลจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มๆ และส่งไปยังปลายทางโดยใช้เส้นทางต่างๆ ขึ้นอยู่กับที่ปลายทางกำหนด โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครือข่ายจะต้องมีหมายเลขประจำเครื่อง เพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆอ้างอิงถึงได้

          หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เรียกว่า หมายเลขไอพี (IP Address) โดยหมายเลขไอพีของเครื่องคอมพิวเตอร์จะต้องไม่ซํ้ากัน และเนื่องจากหมายเลขไอพีจดจำได้ยากถ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากอยู่ในเครือข่าย ก็จะทำให้สับสนได้ง่าย จึงได้ตั้งชื่อเป็นตัวอักษรขึ้นมาแทนหมายเลขไอพี เพื่อช่วยในการจดจำ เรียกว่า ดีเอ็นเอส (DNS : Domain Name Server) ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ชื่อ และโตเมน

    โดเมนมีมาตรฐานใช้ร่วมกันสำหรับหน่วยงานและประเทศต่างๆ  ดังนี้

        
        1. โดเมนระดับบนสุด  จะบอกถึงประเภทขององค์กร หรือชื่อประเทศที่เครือข่ายตั้งอยู่ทั้งนี้ในกรณีที่เป็นโดเมนระดับบนสุดที่บ่งบอกประเทศที่เครือข่ายตั้งอยู่นั้น จะต้องมีโดเมนระดับย่อย เพื่อระบุประเภทขององค์กร
        2. โดเมนระดับย่อย ใช้ในประเทศ ซึ่งจะบอกถึงประเภทองค์กร