ปัจจุบันบริการอินเทอร์เน็ตมีหลากหลายรูปแบบ เช่น จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) การพูดคุยออนไลน์ (talk) การซื้อขายสินค้าหรือพาณิชย์อิเล้กทรอนิกส์ (e-Commerce) และนอกจากนี้ อินเทอร์เน็ตยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมความรู้ทุกด้าน
ดังนั้น อินเทอร์เน็ตจึงมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตของคนเรา ตั้งแต่การเรียน การทำงาน การซื้อสินค้า ตลอดจยการแลกเปลี่ยนความรู้ของกลุ่มคนในสังคม
1.1 ความหมายของอินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ต (Internet : Interconnection Network) หมายถึง เครือข่ายของเครื่อข่าย
ซึ่งก็คือ การเชื่อมต่อกันรหว่างเครือข่าย ทำให้เกิดเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่โยงใยกันทั่วโลก โดยจะต้องมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูลระหว่างกันเป็นแบบเดียวกันแม้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการ
เชื่อมต่อเครือข่ายจะต่างชนิดหรือต่างขนาดกันก็ตาม ก็สามารถสื่อสารกันได้ และคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องภายในเครือข่ายสามารถรับและส่งข้อมูลรูปแบบต่างๆได้หลายรูปแบบ เช่น ตัวอักษร ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว เสียง เป็นต้น
1.2 พัฒนาการของอินเทอร์เน็ต
การศึกษาประวัติความเป็นมาของอินเทอร์เน็ต เป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสื่อสาร ประโยชน์ และแนวโน้มของเทคโนโลยีในอนาคตได้เป็นอย่างดี
1.) อินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ
ในปีค.ศ.1969 หน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้สนับสนุนโครงการงานวิจัยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยช่วงแรกรู้จักในนามอาร์พาเน็ต
(Arpanet) ซึ่งได้มีการสื่อสารผ่านสถาบัน
4 แห่ง โดยมีคอมพิวเตอร์หลากหลายชนิดเชื่อมต่อกันและมีระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกัน
แต่สามารถสื่อสารข้อมูลกันได้
อาร์พาเน็ตแบ่งออกเป็น 2 เครือข่าย คือ เครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูง (ARP
Anet) และเครือข่ายกองทัพ (MILNET) โดยในช่วงต้นทั้ง 2 เครือข่าย
เป็นเครือข่ายหลักที่สำคัญในทวีปอเมริกาเหนือ
ต่อมาหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอาร์พาเน็ต จึงมีการนำเครือข่ายของหน่วยงานมาเชื่อมต่อกับเครือข่ายอาร์พาเน็ต จึงทำให้เกิดเครือข่ายที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จนกระทั่งปี ค.ศ.1984
เครือข่ายนี้ถูกเรียกว่า อินเตอร์เน็ต (Internet) และใช้มาถึงปัจจุบัน
ปัจจุบันเครือข่ายอินเตอร์เน็ตถือเป็นเครือข่ายสาธารณะทุกคนสามารถเข้าใช้ได้อย่างกว้างขวางและได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายในลักษณะของเครือข่ายอินทราเน็ต (intranet) และเครือข่ายเอ็กทราเน็ต (extranet)
อีกด้วย
2.) อินเตอร์เน็ตในประเทศไทย ปี พ.ศ.2530 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)ได้มีการเชื่อมต่อเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ ไปยังมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยเป็นการเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ซึ่งส่งข้อมูลได้ช้าและเชื่อมต่อได้ชั่วคราว
ปี พ.ศ.2535 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์กับมหาวิทยาลัย 5 แห่ง เกิดเป็นเครือข่ายที่เรียกว่า
เครือข่ายไทยสาร โดยสำนักวิทยบริการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปี พ.ศ.2536 ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) ได้เช่าวงจร
สื่่อสารความเร็ว 64บิตต่อวินาที ทำให้เครือข่ายมีความสามารถในการส่งข้อมูลเร็วขึ้น
ทำให้มีหน่วยงานอื่นเข้ามาใช้มากขึ้น
และเครือข่ายจึงเติโตอย่างต่อเนื่อง
ปี พ.ศ.2537 การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้ร่วมมือกับเอกชน
เปิดบริการอินเตอร์เน็ตให้แก่บุคคล เรียกว่า
ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider : ISP) ที่ทำหน้าที่บริการเชื่อมต่อสายสัญญาณจากแหล่งต่างๆของผู้ใช้บริการ เช่น จากที่บ้าน สำนักงาน สถานบริการ และแหล่งอื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อกับระบบใหญ่ออกไปนอกประเทศได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น